ระบำดาวดึงส์
|
ระบำดาวดึงส์
เป็นระบำในละครดึกดำบรรพ์ เรื่อง สังข์ทอง ตอนที่ ๒ ตีคลี สันนิษฐานว่าน่าจะประดิษฐ์ขึ้นในช่วงระหว่างปี
พ.ศ.๒๔๔๒-๒๔๕๒ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ละครดึกดำบรรพ์ของเจ้าพระยาเทเวศร์วงศวิวัฒน์ได้รับความนิยมมาก
บทร้องนั้นเป็นพระนิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติวงศ์
ท่ารำนั้นประดิษฐ์โดยหม่อมเข็มในเจ้าพระยาเทเวศน์ พระประดิษฐ์ไพเราะ (ตาด
ตาตะนันท์) ควบคุมปี่พาทย์ดึกดำบรรพ์ (ซึ่งมีลักษณะการประสมวงเป็นรูปแบบเฉพาะ)
หลวงเสนาะดุริยางค์ เป็นผู้ฝึกหัดวิธีขับร้อง บทร้องพรรณนาถึงสมบัติอมรินทร์
เพลงที่ใช้ประกอบคือลำตะเขิ่งและลำแขกเจ้าเซ็น ในชั้นหลังได้นำระบำนี้มาเล่นเป็นเอกเทศ
และแทรกเพลงเหาะไว้เพื่อตัวละครรำออก การแสดงชุดนี้จะใช้ผู้แสดงตั้งแต่
๒ คู่ขึ้นไป

|
|
ดาวดึงส์เทวโลกมโหฬาร
|
เป็นที่อยู่สำราญฤทัยหรรษ์ |
|
สารพัดงามจริงทุกสิ่งอัน |
สารพันอุดมสมใจปอง |
|
เทพบุตรผุดพรรณโฉมยง |
งามทรงอาภรณ์ไม่มีหมอง |
|
นางอัปสรงอนสงวนนวลละออง |
งามทรงเครื่องทองและเพชรนิล |
|
สมเด็จพระอัมรินทร์ปิ่นมงกุฎ
|
ทรงวชิราวุธธนูศิลป์ |
|
รักษาเทวสีมาเป็นอาจิณ |
อสุรินทร์อรีไม่บีฑา
(ซ้ำ) |
|
อันอินทรปราสาททั้งสาม
(ซ้ำ) |
ทรงงามสูงเงื้อมกลางเวหา |
|
สี่มุขหุ้มมาศสะอาดตา
|
ใบระกาแกมแก้วประกอบกัน |
|
ช่อฟ้าช้อยเฟื้อยเฉื่อยชด
(ซ้ำ) |
บราลีที่ลดมุขกระสัน
(ซ้ำ) |
|
มุขเด็ดทองคาดกนกพัน |
บุษบกสุวรรณชามพูนุท
(ซ้ำ) |
|
ราชยานเวชยันตร์รถแก้ว
(ซ้ำ) |
เพริศแพร้วกำกงอลงกต
(ซ้ำ) |
|
แอกงอนอ่อนสลวยชวยชด
(ซ้ำ) |
เครือขดช่อตั้งบัลลังก์ลอย |
|
รายรูปสิงห์อัดหยัดยัน |
สุบรรณจับนาคหิ้วเศียรห้อย
(ซ้ำ) |
|
ดุมพราววาววับประดับพลอย |
แปรกแก้วกาบช้อยสะบัดบัง |
|
เทียมด้วยสิงธพเทพบุตร |
ทั้งสี่บริสุทธิ์ดั่งสีสังข์ |
|
มาตลีอาจขี่ขับประดัง |
ให้รีบรุดสุดกำลังดังลมพา |
 |
|